หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้มีทั้งคุณและโทษหรืออาจจะมีทั้ง สองอย่างอยู่ภาย ในสิ่งเดียวกัน เช่นพืชสมุนไพรบางชนิดให้คุณทางการรักษาบรรเทาโรค แต่ก็อาจให้โทษ หากไม่ได้ใช้อย่างถูกวิธี อาหารก็มีคุณและโทษด้วยเหมือนกันเพราะอาหารดีไม่ว่าจะดีมี ประโยชน์เพียงใดแต่ถ้าเราบริโภคเกินจำเป็นอาหารนั้นก็ให้โทษกับเราได้เช่น กัน ในร่างกายของเรานี้ก็สามารถผลิตพิษร้ายออกมาทำให้เราเจ็บป่วยได้ทุกเวลาหาก เราเผลอไผลไม่ดูแล พิษนั้นมาจากไหนและมาได้อย่างไร?...ความเครียด ความมีจิตอาฆาต พยาบาท ความเป็นคนมีอารมณ์ฉุนเฉียวและอารมณ์อื่นๆ อีกที่ทำให้ร่างกายที่แสนดีหัน กลับมาสร้างสิ่งที่เป็นศัตรูกับเรา เมื่อเรามีโอกาสได้หาอาหารดีๆ มาเพื่อรับประทานแทน ที่จะทำให้ร่างกายของเราได้สดใสแข็งแรงและต้านโรค... ร่างกายของเรากลับกำลังสร้างสิ่ง ที่ตรงกันข้าม ฉะนั้นเราต้องเข้าใจและรู้เท่าทันร่างกายและจิตใจของเราด้วย ดังจะยกตัวอย่างจากภาพยนต์เรื่องหนึ่งที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องนักกับสิ่ง ที่ตั้งใจจะ เขียนนี้ แต่เป็นการเปรียบถึงพิษที่มนุษย์ซ่อนไว้ภายใน เป็นเรื่องของนางสนมนางหนึ่งที่ อยากจะทรงอยู่ในอำนาจวาสนา นางจึงลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ด้วยยาพิษ นางไปพบหมอ ปรุงยาที่เก่งมากคนหนึ่งและถามหมอปรุงยาว่า...ท่านมียาพิษที่ทำให้ถึงตายได้ ไหม? หมอ ปรุงยาตอบว่ามีแล้วหยิบยาพิษส่งให้นาง.. นางจึงถามต่อไปว่าแล้วท่านมียาพิษชนิดที่ร้าย แรงที่สุดกว่านี้อีกไหม? หมอปรุงยาตอบว่ามี...นางก็ถามว่าแล้วยานั้นอยู่ที่ใด? หมอปรุงยา จึงตอบนางว่า สิ่งที่มีพิษร้ายที่สุดนั้นอยู่ในใจคน...
สัตว์และพืชที่มีพิษก็มีไว้เพื่อป้องกันตัวเองแต่พิษในใจของมนุษย ์ เมื่อเกิดกับผู้ใด พิษนั้นก็จะทำลายขวัญและกำลังใจได้หมดและส่งผลมายังร่างกายไม่เว้นแม้แต่ตน เอง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนกันมารับมือกับอารมณ์ร้ายต่างๆ ที่จะกลายมาเป็นตัวการสร้างพิษแห่ง ความเจ็บป่วยให้กับเรา โดยยาขนานเอกที่ไม่ต้องลงทุนซื้อหามาด้วยเงินทองชื่อว่ายา “อภัย” ยาขนานนี้จะได้มาต้องฝึกฝนเหมือนฝึกวิทยายุทธ แต่เมื่อฝึกจนสำเร็จแล้วมันจะอยู่กับเรา ตลอดไปให้เราได้ใช้ป้องกันตัวจากพิษแห่งความโกรธ วันนี้หลังจากวิ่งอ้อมภูผามหาสมุทร มาเสียเนิ่นนานผู้เขียนจะขอนำเสนอเครื่องดื่ม ฟื้นฟูเซลบำรุงจิตใจเพื่อให้ได้นำไปเป็นตัว กระสายยาคู่กับยาอภัยสักหน่อยเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้อารมณ์
น้ำผักปั่น สำหรับสองคน (แก้วโต)
น้ำสะอาด 2 แก้ว (ใช้น้ำเย็นจะช่วยเพิ่มรสชาด)
ผักกาดหอมหั่น 3 ใบ
กึ่นฉ่ายหั่น 3 ก้าน
มะเขือเทศสุก 1 ผล
หอมหัวใหญ่สดหั่น 1/4 หัว (ถ้าไม่ชอบให้เริ่มจากน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่ม)
เสาวรส(ตักเอาแต่ไส้) 1-2 ผล (ใช้มะนาวสดแทนได้)
แอปเปิ้ล 1/2 ผล (ใช้ผลกีวี่แทนหรือจะไม่ใส่เลยก็ได้)
น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในโถปั่น แล้วปั่นด้วยความเร็วสูงจนละเอียดดี
- น้ำผักปั่นที่มีคุณภาพเมื่อปั่นแล้วควรดื่มให้หมด ไม่แนะนำให้ปั่นเก็บไว้
- น้ำผักที่มีความเป็นกรดจะช่วยไปเปลี่ยนไขมันที่ตกค้างไปเป็นโคเลสเตอรอล ไปเป็น ไตรกลีเซอร์ไรด์ และเป็นกลีเซอร์ไรด์ในที่สุด
ชากระเจี๊ยบพุดทราจีน (จิบยามบ่ายหรือหลังอาหาร)
กระเจี๊ยบแดงล้างผ่านน้ำเอาฝุ่นออก 1 กำมือ
พุดทราจีนแห้งล้างผ่านน้ำ 1 กำมือ
ลูกเกดดำ 1 กำมือ (จะไม่ใส่ก็ได้)
น้ำสะอาด 1 ลิตร(เพิ่มได้อีกถ้าไม่ชอบรสเปรี้ยว)
- ต้มส่วนผสมทั้งสามชนิดกับน้ำสะอาดให้เดือดสักครู่แล้วปิดไฟ จะดื่มแบบร้อน หรือพักไว้ ให้เย็นก่อนแล้วใส่ภาชนะเก็บไว้ในตู้เย็น
- สูตรนี้สำหรับคนที่ชอบชาผลไม้ รสของชาจะออกเปรี้ยวที่ไม่ใส่รสหวานเพราะจะได้รส หวานอ่อนๆ จากลูกเกด ถ้าไม่ใส่ลูกเกดจะใช้น้ำผึ้งผสมตอนดื่มก็ได้
- เมื่อรินน้ำมาดื่มแล้วส่วนผสมที่เหลือยังใช้ต้มได้อีกโดยลดปริมาณน้ำลงจากเดิมครึ่งหนึ่ง
http://thaigoodnews.us/chalee/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น