วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อาหารเป็นยา พ่อครัวผู้ล่วงลับ

       สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านTGNและทีงานผู้จัดทำที่น่ารักทุก ท่าน พอหมดฤดูฝนทีไรประเทศไทยเราก็มักจะต้องพบเจอกับภัยจากน้ำหรือไม่ก็ภัย จากโรคไข้หวัดที่มากับอากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่คุ้นเคยกัน ดิฉันขออฐิษฐานว่าให้เราผ่านพ้นไปด้วยดีและเราจะผ่านเรื่องร้ายต่างๆนี้ได้ ด้วยการเห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันดั่งที่เคยประพฤติปฏิบัติมาช้านาน  หากมีการสูญเสียใดๆก็ขอให้สูญเสียน้อยที่สุดนะคะ 



         อาจดูเหมือนจะสุ่มเสี่ยงสักหน่อยที่ดิฉันนำเรื่องของนายสมัคร สุนทรเวชผู้ล่วงลับไปแล้วมาหยิบยกเป็นเรื่องคุยนำสำหรับอาหารเป็นยาฉบับนี้ ไม่ใช่ว่าแม่ชาลีไม่มีเรื่องจะเขียนหรอกนะคะก็ยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกมาก ที่จริงแล้วอาหารเป็นยาฉบับนี้ดิฉันตั้งใจนำเสนอเรื่องราวของพี่น้องคนไทย ที่ประสพกับอุทกภัยเพราะได้มีโอกาสลงพื้นที่ไปกับกองทัพธรรมมูลนิธิเพื่อไป ช่วยกันเก็บขยะที่อำเภอหาดใหญ่  แต่เนื่องจากว่าช่วงที่กำลังคิดว่าจะส่งเรื่องอะไรเข้ามาให้กับทีมงานก็ บังเอิญเหลือบไปเห็นหน้าข่าวของเพื่อนๆชาวเฟสบุ๊คกำลังวิพากย์กันถึงเรื่อง การจัดงานศพของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและนักการเมืองที่โด่งดังจนใครๆต่างก็รู้จัก นายสมัครในวันนี้ในมุมมองของดิฉันกลับไม่ใช่ภาพของนายกรัฐมนตรีดั่งที่ใครๆ มองค่ะ เขาคือพ่อครัวที่ชอบปรุงอาหารและทำกับข้าวฝีมือเข้าขั้นคนหนึ่ง ดิฉันก็เป็นคนที่ชอบทำกับข้าวคงไม่ต้องบอกท่านผู้อ่านก็คงพอทราบว่าดิฉัน ต้องชอบดูรายการอาหารทางทีวีช่องต่างๆอยู่บ้าง ดิฉันชอบดูจริงๆนะคะไม่เลือกพิธีกรด้วยค่ะว่าจะเป็นผู้ใดจะทำไปบ่นไปก็ดูได้ ไม่เกี่ยงงอน การเปิดใจให้กว้างมีแต่จะได้กำไรในสิ่งที่เราได้รู้เห็นค่ะ         

          ครั้งหนึ่ง...ดิฉันดูรายการของคุณสมัครในสมัยที่เขาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานครฯวันนั้นจำได้ว่าคุณสมัครสาธิตการทำต้มข่ากุ้งแม่น้ำหรือถ้าจะบอกกัน แบบเข้าใจง่ายๆก็คือต้มยำกุ้งน้ำข้นแบบไฮโซหน่อยเพราะเขาใช้กุ้งแม่น้ำมา ย่างไฟก่อนพอหอมๆแล้วจึงนำมาผ่าตามยาวแล้วนำไปต้มยำใส่กระทิสดและเครื่องต้ม ยำที่เราคุ้นเคยกันว่ามีอะไรบ้าง ที่ดิฉันเลือกที่จะนำเมนูนี้มาเล่าซ้ำกับท่านผู้อ่่านก็เพราะว่ากาลเวลาได้ ผ่านมามากพอดูจนบางท่านที่เคยได้ดูเหมือนดิฉันอาจลืมบรรยากาศดีๆนี้ไป และต้องกราบขออภัยท่านผู้อ่านที่อาจรู้สึกค้างคาใจกับอาชีพนักการเมืองของ พ่อครัวผู้นี้แต่ก็อย่างที่ดิฉันเรียนท่านผู้อ่านมาในตอนต้นแล้วว่าดิฉันขอ นำเสนอในแง่มุมของสิ่งดีๆที่มีในเรื่องการปรุงอาหารเท่านั้น คุณ สมัครยังมีลีลาการทำอาหารแบบไทยแท้อยู่อย่างน่าชื่นชม ดิฉันยังจดจำคำพูดประโยคหนึ่งของพ่อครัวคนนี้เกี่ยวกับการต้มข่าหรือต้มยำ น้ำข้นในกรณีที่ว่า...ต้มยำกุ้งคืออาหารที่ออกหน้ารับแขกของประเทศไทยคุณ สมัครกล่าวว่า..."ผมใม่ชอบใจเลยที่ร้านอาหารทำต้มยำนี้แล้วใส่นมสด แม๋...ไปเอาเยี่ยงอย่างที่ไหนมาอาหารไทยต้องรสชาติแบบนี้ครับ"สาธิตไปคุณ สมัครก็บ่นไปตามสโลแกนส่วนตัวสมชื่อรายการค่ะ และหากท่านใดได้ดูรายการในยุคนั้นคุณสมัครต้องแนะนำร้านอาหารที่ชอบไปชิมว่า ร้านไหนอร่อยและตั้งอยู่ที่ไหน และอร่อยอย่างไรอธิบายด้วยว่าทำไมถึงอร่อย

          หลายครั้งที่ดิฉันเห็นพ่อครัวผู้ล่วงลับผู้นี้ปรุงอาหารไทยโดยใช้เครื่อง ปรุงและของไทยๆมาทำอาหาร หากเราจะมองย้อนไปและมองโลกอย่างอนิจจังดิฉันเชื่อว่าท่านที่ยังคงค้างคาใจ ไม่ว่าจะเหตุจากอะไรก็ตามอาจจะรู้สึกผ่อนคลายลงด้วยเห็นว่า...คนเราก็เท่า นี้ เมื่อเราถึงเวลาที่จะหมดอายุขัยใครๆก็ทราบดีว่าแม้แต่เงินปากผีก็นำไปด้วย ไม่ได้  แต่แม่ชาลียังจะจินตนาการต่อไปอีกว่า...ความรัก และความเกลียดชังล่ะมันจะติดตามเราไปด้วยได้ไหม เหมือนดั่งนวนิยายรักข้ามภพหรือแค้นฝังหุ่นข้ามชาติที่ตามไปจองกฐินเวรกรรม กันในอีกภพชาติหนึ่งได้  คิดมาถึงตรงนี้ใครช่วยดิฉันหาคำตอบสักหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างมากค่ะ  และหากท่านผู้อ่านจะหัวเราะเยาะความเฟื่องของดิฉันก็ทำได้เลยนะคะดิฉันจะขอ น้อมรับด้วยความยินดีค่ะ ฮ่าาาาาา  มาหัวเราะด้วยกันสักวันก่อนที่เราจะไปหาอะไรมาทำอาหารทานกันนะคะ 




   อาหารเพื่อสุขภาพที่ดิฉันจะมานำเสนอในอาหารเป็นยาฉบับบนี้คืออาหารที่ดีมี คุณค่ากับร่างกายอีกเช่นเคย โดยเมนูที่จะทำในวันนี้คือการทำ"ยำแหนมข้าวทอด"อาหารทานเล่นหรือจะเรียกได้ ว่าอาหารประจำซอยของสาวรสแซบที่นิยมกันไม่น้อยเลย แต่วันนี้จะมานำเสนอในรูปแบบของการทานมังสะวิรัติอีกด้วยค่ะ  อาหารจานนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าจะต้องใช้หนังหมูที่อุดมไปด้วยไขมันและคลอเล สเตอรอล และอาจมีสารฟอมาลีนและสารฟอกขาวปนเปื้อนมากับหนังหมูอีกด้วยในกรณีที่เราไม่ ได้ทำหนังหมูเองกับมือ และเราก็ทราบกันอีกว่าแหนมที่เขาทำมาขายชนิดสำเร็จรูปนั้นมีข้อดีหรือข้อ เสียประการใดบ้าง เราไม่อาจไปบอกหรือสั่งให้ใครทำอะไรดีๆให้กับเราได้เราจึงต้องมาบอกตัวเรา ให้ทำสิ่งดีๆให้กับตนเองและคนที่เราห่วงใยโดยดิฉันเต็มใจที่จะนำสิ่งดีๆ เหล่านี้มานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้นำไปดัดแปลงเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันกัน ค่ะ สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง
  

ส่วนผสม ส่วนที่๑ 

-เส้น บุก ล้างน้ำแล้วนำไปลวกในน้ำเดือดผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หากหาเส้นบุกไม่ได้ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ต้มสุกจนแผ่นก๋วยเตี๋ยวม้วน ตัวแล้วนำมาหั่นตามขวางเหมือนหนังหมู หรือหากยังหาไม่ได้อีกก็ใช้วุ้นเส้นลวกน้ำร้อนก็ได้ค่ะแต่ที่กล่าวมานี้ อร่อยสู้เส้นบุกไม่ได้
-หมูสับเจ(แป้งหมี่กึน) หากไม่มีใช้เต้าหู้แข็งมายีแล้วนำไปคั่วในกระทะเทฟล่อนจะได้เหมือนหมูสับ-มะนาว  ซีอิ๊วขาว  น้ำตาลทราย (ไม่ใส่ก็ได้)
-ขิงซอย หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย-ถั่วลิสงทอดหรือคั่ว  พริกขี้หนูแห้งทอด
-พริกป่น  ส่วนผสม ส่วนที่๒(ข้าวทอด)
-ข้าวสวย ๒ถ้วยตวง
-มะพร้าวขูด ๒ช้อนโต๊ะ
-พริกแกงเผ็ด ๑ช้อนโต๊ะ
-ซ้อสปรุงรส ๒ช้อนโต๊ะ-ใบมะกรูดซอย ครึ่งช้อนโต๊ะ
-น้ำมันสำหรับทอด(หากจะทำเป็นอาชีพเสริมหรือทำเพื่องานเลี้ยงก็เพิ่มส่วนผสมได้ตามชอบใจ)  วีธและขั้นตอนการทำแหนมข้าวทอด
-ผสม พริกแกงกับซ้อสปรุงรสเข้าด้วยกันแล้วนำไปเคล้าลงในข้าวสวยและมะพร้าวขูด ใส่ใบมะกรูดซอยผสมให้เข้ากันดีแล้วชิมรสดูว่าเค็ม เผ็ดพอดีหรือยัง
-ปั้นข้าวให้เป็นลูกทรงกลมจนหมดแล้วนำไปทอดในน้ำมันท่วมด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองกรอบนอก นุ่มใน
-เมื่อจะรับประทานก็นำเส้นบุกมาใส่ในชามผสมตามต้องการ ใส่หมูสับเจ ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว ใส่ขิงและเครื่องที่ซอยลงไป นำข้าวทอดมาบี้ให้พอแตกผสมลงในชาม เคล้าปรุงรสให้พอดีกับที่ต้องการ
-จัดใส่จานโรยหน้าด้วยถั่วทอดและพริกขี้หนูทอด ทานคู่กับผีกสดได้หลายชนิดตามชอบ ยิ่งผักมากชนิดจะยิ่งเพิ่มรสชาติและได้อาหารตาอีกด้วย  ผัก ที่ขอแนะนำว่าชูรส ชูกลิ่นได้แก่ ผักกาดหอมต่างๆ ใบโหระพา ผักแพรวหรือที่เรียกอีกชื่อว่าผักไผ่ ใบชะพลู และผักสดนาๆชนิดทานให้ได้หลากหลายนะคะ อาหารดีสีสวยได้ทั้งอาหารกายและอาหารตา
     และท้ายสุดสำหรับอาหารเป็นยาฉบับนี้คงต้องกล่าวคำขออภัยหากบทความของดิฉัน ได้ก้าวล่วงต่อผู้เสียชีวิตไปโดยไม่เจตนาด้วยค่ะ



พฤษภกาสร    อีกกุญชรอันปลดปลง


โททนต์เสน่งคง สำคัญหลายในกายมี


นรชาติวางวาย  มลายสิ้นทั้งอินทรีย์


สถิตทั่วแต่ชั่วดี  ประดับไว้ในโลกา"


(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส : กฤษณาสอนน้องคำฉันท์)







  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น