วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รถสุขามหานคร(มหานครทอยเล็ต)

หิวก็ร้อง อิ่มไปก็บ่น จะขับถ่ายยังเรื่องมาก
          สุ...แปลว่าดี ขาแปลว่า...อวัยวะส่วนล่าง 55 คนที่กำลังอ่านคงเกาหัวแกรกๆคิดว่าคำนี้มันมาจากพจนานุกรมเล่มไหนกันเนี่ย ความหมายของคำว่า"ขา"ที่ว่านี้มาจากพจนานุกรมฉบับคนข้างถนนของเราเองค่ะ เพราะว่าเรามีประสพการณ์ตรงกับการไปปักหลักพักค้างอยู่ข้างถนนและบนฟุตบาทจึงมีความจำเป็น(รำเค็ญ)ที่ต้องใช้บริการรถสุขาเคลื่อนที่ของกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ฯมามากมายหลายครั้งจึงมีความทรงจำทั้งดีและไม่ดีมาเล่าสู่กันฟังสำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้บิรการหรรษา(สาหัส)ของมหานครทอยเล็ต รถเมล์เก่าๆที่ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นรถเพื่อรองรับการขับถ่ายของคนที่ต้องการปลดทุกข์นอกสถานที่เป็นการเร่งด่วน ทำไมต้องใช้คำว่าเร่งด่วนก็เพราะว่าด้วยความรู้สึกว่าไม่มีใครอยากกรายกร้ำเข้าใกล้เจ้ารถสุขานี่หากไม่มีความจำเป็นจริงๆเพราะว่าเพียงเราเข้าไปใกล้เราก็จะได้รับหรือสัมผัสกับกลิ่นที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์โชยมาให้ได้รับรู้ว่าตรงนั้นน่าเข้าไปใกล้หรือไม่ อย่างไร...
          รถสุขาเคลื่อนที่สีเขียวๆนี้ปกติก็มีไว้บริการประชาชนตามวาระและโอกาศต่างๆ อาจจะมีการจัดไปตามคำขอของประชาชนหรือหน่วยงานใดๆเมื่อมีการจัดงานหรือมีนิทรรศการอะไรที่ต้องมีผู้คนหมู่มากแต่จำนวนห้องน้ำห้องส้วม(สุขา)มีไว้บริการไม่เพียงพอ ภายในรถสุขามหาสนุกของกรุงเทพฯมหานครอมรรัตนโกสินทร์ฯนี้ภายในรถแต่ละคันก็จะมีสภาพตามมีตามเกิดไปตามสภาพของรถและพนักงานที่ดูแล คำที่บอกว้่า"ห้องน้ำคือห้องรับแขก"หรือ"ห้องน้ำคือหน้าตาของบ้าน"สำหรับเราๆที่มีห้องน้ำแล้วดูแลใส่ใจนั้นเห็นทีจะเป็นตำราคนละเล่มกันกับรถสุขาสีเขียวของ กทม.เป็นแน่แท้ค่ะ แต่อาจต้องนึกไปถึงคำว่า"มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน"คงจะได้อารมณ์กว่า
          สภาพของสุขภัณฑ์ที่จัดไว้ภายในรถสุขาจะเป็นสเตนเลสแบบราบไปกับพื้นบ้าง ยกสูงแบบนั่งยองๆบ้างก็แล้วแต่ว่าคันไหนจะเป็นแบบใด ในรถสีเขียวๆคันหนึ่งเขาจะกั้นครึ่งไว้ด้วยไม้อัดหรือวัสดุแบบไม่มิดชิดอะไร ในห้องสุขานั้นก็คับแคบชนิดที่ว่าใครมีขนาดลำตัวใหญ่ๆคงจะได้แค่หมุนตัวเท่านั้น เจ้าตะกร้าขยะที่มีไว้ทิ้งเศษอะไรต่อมิอะไรอยู่ก็แทบจะชิดกับหน้าเรา เฮ้อ....ไม่อยากบรรยายละเอียดมากนักหรอกค่ะเดี๋ยวเกิดใครมาอ่านแล้วเกิดวันใดวันหนึ่งต้องไปใช้บริการรถสุขามหานครเข้าจะเกิดจินตนาการเสียจนไใม่กล้าเข้าไปใช้จะทำให้ทุกข์ทรมานกันทั้งหนักทั้งเบา บาปกรรมจะตกมาถึงคนเล่าหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้
          เมื่อเราก้าวเท้าขึ้นไปบนบันไดของรถสุขามหานครนี้อย่าได้คาดหวังเลยว่าจะได้เจอพนักงานหนุ่มหล่อแบบเคนธีระเดช เพราะนี่คือรถปลดทุกข์สำหรับฉุกเฉินใครเข้าไปแล้วจะต้องรีบกลับออกมาโดยเร็วที่สุด ต่างกับรถไฟฟ้ามหานครที่ติดแอร์เย็นฉ่ำจนน่าหลับไหล ก้าวแรกที่เหยี่ยบย่างขึ้นไป...ตื่นเต้น เร้าใจ ระทึกขวัญไม่น้อย  จะเป็นการดีกว่านี้หากพนักงานที่อยู่ในส่วนที่นั่งของคนขับซึ่งจัดไว้เป็นที่พักอีกต่างหากนั้นจะไม่ใช่พนักงานผู้ชาย ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกค่ะ แต่มันทำให้ประดักประเดิดเวลาต้องไปยืนออกันเพื่อรอใช้บริการในห้องสุขาหญิง  เมื่อเราต้องใช้บริการในยามที่คนมาเข้าคิวกันอย่างจอแจแออัดด้วยละก็จะต้องใช้ความอดทนสูงกว่ายามปกติ ยิ่งแถวยาวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเครื่องทดสอบความอดทนมากเท่านั้น ระยะทางพิสูจน์ม้า...ก็อาจจะพอใช้ได้ค่ะเพราะนอกจากเราต้องอดทนกับอาการปวดหนักปวดเบาแล้วเราต้องทนกับกลิ่นของห้องสุขามหานครนี้ด้วย ยิ่งรอนานก็ได้รับรู้ถึงวิบากของมนุษย์ และหากกำลังเข้าคิวรอๆอยู่แล้วรถสุขาเต็มจนต้องมีรถมาถ่ายของเสียออกไปช่วงนั้นนะเป็นอะไรที่สุดแสนจะสาหัส จึงขอฝากคำเตือนไว้ว่า...อย่ารอให้อาการหนักแล้วจึงไปเข้ารถสุขาเพราะเราอาจค้องต่อแถวยาวจะได้ไม่ทุกข์มาก ความรักกับความทุกข์จึงต่างกันชัดเจนให้ได้คิดแบบขำๆที่ว่าความรักนั้นอย่าชิงสุกก่อนห่าม แต่ความทุกข์เรื่องสุขาไม่ควรรอให้สุกงอมอย่างความรักค่ะ 555 เปรียบไปได้อย่างไรกันนี่ก็ขอเปรียบแบบฉบับข้างถนนก็แล้วกันนะคะ
          รถสุขามหานครของกรุงเทพมหานครมาเป็นหน่วยงานที่ต้องบริการประชาชนทางกรุงเทพฯน่าจะปรับปรุงพัฒนาให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ อยากให้ผู้ว่ากรุงเทพฯได้ระลึกถึงคำของคนไทยที่ว่าห้องน้ำคือห้องรับแขก ช่วยปรับปรุงทำๆเรื่องนี้หน่อยเถอะค่ะไม่ต้องไปง้อรอรถเมล์4,000คันหรอกนะคะเพราะว่าไม่ใช่จะมีแต่คนไทยเท่านั้นที่มีความทุกข์ฉุกเฉินชาวต่างชาติก็มีมาใช้บริการเหมือนกันจะได้มีคำชมมาเปรียบเราว่ามีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้านใครผ่านไปมาแม้จะไม่ได้เข้ามาใช้บริการก็ยังยิ้มให้เพราะไม่มีกลิ่นส่งไปรบกวน แต่นี่...การใช้บริการรถสุขามหานครเหมือนเรามีทุกข์สองเด้ง เด้งที่1คือทุกข์ที่ต้องปลดปล่อย เด้งที่2คือทุกข์ที่ต้องอดทนในทุกข์...อย่างที่กล่าวมา
          เมื่อวันก่อนเราก็ได้ไปที่หน้ารัฐสภาวันนั้นมีการประกาศว่ามีรถสุขามารอบริการประชาชน เราก็นึกในใจว่าเออ...ดีน็อ กทม.ของคุณชายหม่อมฯช่างน่ารักเสียจริงเพราะที่เคยประสพมานั้นหากเราจะใช้บริการรถสุขาเคลื่อนที่จะต้องแจ้งล่วงหน้านานมาก แต่วันนี้มาจอดรอ...แต่ที่ไหนได้ เราเพิ่งรู้ว่าหากเราต้องการรถสุขาฯมาบริการต้องจ่ายเงินถึงกะละ4,500/คันหากเราจะใช้เวลา06.00-18.00เราต้องจ่ายคันละสี่พันห้าร้อยบาท ใช้4คันก็ราคา18,000บาท(แพงเกินกว่าคุณภาพ) และหากภาระกิจยังไม่เสร็จสิ้นก็ต้องไปเจรจาต่อเวลาและจ่ายเงินเพิ่มให้กับเขาไม่อย่างนั้นเขาก็จะกลับสังกัดแบบไม่ใยดีเราเลย และหากใครเคยเห็นภาพที่รถสุขากำลังขับเคลื่อนตัวออกไปเพื่อเปลี่ยนกะกับคันใหม่แต่เขาไม่ได้ดูว่ามีคนกำลังปลดทุกข์อยู่ในห้องสุขาของเขา ลองนึกภาพคนที่กำลังอยู่ในนั้นดูเถอะว่าเขาจะต้องตกใจแค่ไหนและจะทำอย่างไรเมื่อเสร็จธุระส่วนตัว เฮ้อ...
          สภาพรถสุขาเก่าๆ ความถูกอนามัยอะไรก้ไม่มีให้เห็น แถมเป็นทรัพย์สินที่มาจากภาษีของประชาชนซึ่งมีไม่อั้นชนิดเต็มออกๆ ไหนๆก็มีเงินรอให้ใช้จ่ายทำให้ดีกว่านี้หน่อยเถอะค่ะไม่ว่าจะเป็นสุขาเคลื่อนที่หรือสุขาที่อยู่หนใดก็ตาม  นำสุขาดีๆมาบริการจะเก็บเงินเพิ่มใครๆเขาคงเต็มใจให้ จำไว้นะ กทม.
- รถสุขามีไม่เท่าไหร่ยังดูแลไม่ได้ดี รถเมล์มีจำนวนมากกว่าตั้งกี่เท่าใครจะไปดูแลไหว (รู้สึกเห็นใจ ขสมก.)
- มีสุขาให้ใช้ดีกว่าไปปลดปล่อยไว้ข้างทาง (ยังงจะมองไม่เห็นความดี)     
- บ้านช่องมีไม่รู้จักอยู่ ออกมาร่อนเร่ให้ลำบาก แล้วมาบ่นทำไม (มันน่าสมน้ำหน้าไม๊)

สภาพที่พอจะดูได้
สภาพที่พอจะได้ดูจากภายนอก น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นนั้นก็สกปรก แต่ภายในนั้นขอบอกว่า...อย่าดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น